Thursday, 16 February 2023 17:34

7 สิ่งที่ต้องระวัง ถ้ายังไม่อยากให้ธุรกิจของคุณเจ๊ง

how-to-success-business

1.หน้าใหญ่

เป็นสิ่งที่คนเป็นเจ้าของธุรกิจควรตระหนักเอาไว้เป็นอย่างแรก เพราะว่าการที่คุณทำธุรกิจก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีกินมีใช้มากกว่าคนที่ทำอาชีพอื่น ดังนั้นจงเลิกนิสัยชอบเลี้ยงข้าวลูกน้อง แจกของขวัญลูกน้องแบบไร้สาเหตุ หรือการใช้ของฟุ่มเฟือยที่ไม่ได้มีความจำเป็นเพียงแค่ต้องการใส่เพื่อโอ้อวดคนอื่น เพราะไม่มีนักธุรกิจคนไหนที่ประสบความสำเร็จ ใช้เงินสุรุ่ย สุร่ายแบบไม่เห็นค่าของเงินเพียงเพื่อต้องการอวดฐานะ พอตรงนี้หลายคนอาจมีคำถามว่าแล้วเราจะทำธุรกิจไปทำไมในเมื่ออยากซื้อของฟุ่มเฟือยอะไรก็ไม่ได้ คำตอบคือให้ธุรกิจคุณมีกำไรมากพอและเดินหน้าอย่างไม่ขัดสนก่อน ถึงเวลานั้นคุณจะให้ของขวัญตัวเองหรือจะซื้อให้ใครกี่ชิ้นก็ไม่มีใครว่าคุณ

 

2.รับลูกน้องแบบไม่ดูสถานการณ์

หลายๆคนพอเริ่มเปิดบริษัทหรือทำธุรกิจไปสักระยะก็จะเริ่มจ้างลูกน้องเข้ามาช่วยงาน ซึ่งตรงนี้แหละที่พลาด เพราะการจ้างลูกน้องควรทำก็ต่อเมื่อธุรกิจเริ่มอยู่ตัวหรือเราบริหารได้เองมาสักระยะโดยไม่ขัดสน การเร่งรีบรับลูกน้องเข้ามาเลยนอกจากจะเสียเวลาในการสอนแล้ว ยังเพิ่มต้นทุนของธุรกิจคุณให้มากขึ้นไปอีก บางครั้งเลวร้ายถึงขนาดทำให้ธุรกิจสะดุดและถึงขั้นเจ๊งไปเลยก็มี และจงจำไว้ว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นอะไรที่เหนื่อยและต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง ถ้าอะไรยังไม่เข้าที่เข้าทางก็อย่าพึ่งรีบจ้างพนักงาน

 

3.แม้งานจะยุ่งลูกค้าจะเยอะ แต่ก็จงห้ามลืมหาลูกค้ารายใหม่เพิ่มให้ธุรกิจตัวเอง

มีนักธุรกิจใหม่ไฟแรงหลายคน หลังจากเริ่มทำธุรกิจไปสักระยะหนึ่งพอเริ่มมีลูกค้าเยอะขึ้นก็จะหยุดรับงานแล้วอ้างกับตัวเองว่า "งานเยอะครับยังไม่รับก่อน เดี๋ยวรอเครียร์งานแล้วค่อยรับใหม่นะครับ" ประโยคนี้แหละที่จะทำให้คุณเจ๊งโดยที่ไม่รุ้ตัว เพราะหลายๆ ครั้งพอคุณเริ่มเคลียร์งานได้เสร็จ ลูกค้าก็หายไปจ้างที่อื่นซะแล้ว ซึ่งพอถึงเวลานั้นคุณจะไปวิ่งหาลูกค้าจากไหน ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณได้ปฏิเสธลูกค้าไปแล้วว่างานคุณยุ่ง ทำไม่ทัน ซึ่งตรงนี้มีเทคนิคคือให้บอกลูกค้าว่ารอได้ไหมเดี๋ยวจะให้ราคาพิเศษ หรือให้ลูกค้าจองไว้ก่อนได้ไหม อะไรทำนองนี้ เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าการทิ้งลูกค้าไปเลยแล้วเสียเวลาหาเอาดาบหน้าซึ่งไม่รู้ว่าจะได้สั่งซื้อกันจริงหรือเปล่า ดังนั้นต้องระลึกเสมอว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจที่ดีคือการหาลูกค้ามาใช้บริการให้ได้อย่างสม่ำเสมอ 

 

4.สินค้าและบริการน้อยเกินไป

ข้อนี้ก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะหลายๆครั้งที่เห็นธุรกิจเจ๊ง ก็เกิดมาจาก กระแสของสินค้าหรือบริการที่กำลังทำอยู่ไม่ตอบโจทย์ตลาดของลูกค้าในช่วงเวลานั้น เช่นครึ่งปีแรกขายดีมาก แต่ครึ่งปีหลังเกิดเหตุการณ์บางอย่างมากระทบทำให้กระแสของสินค้าบางอย่างหมดไป ยกตัวอย่าง ธุรกิจรับทำรางน้ำฝนก็มักจะขายได้ดีตอนช่วงหน้าฝน แต่พอหมดหน้าฝนก็ขายไม่ได้ ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการซึ่งถ้าไม่มีลูกค้าไปนานๆ ก็อาจจะต้องปิดกิจการได้ วิธีแก้คือหาธุรกิจอื่นมาเสริมเช่นรับมุงหลังคาเมทัลชีทมาเสริมเพราะมีงานตลอดทั้งปีถึงแม้กำไรจะน้อยหน่อยแต่อย่างน้อยเราก็มีงานทำไม่ขาดช่วง ดังนั้นจงอย่าลืมหาสินค้าและบริการใหม่เข้ามาในธุรกิจเราอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะได้มีสินค้าและบริการอื่นทดแทนหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

 

5.อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ

การฝากสินค้าของเราไว้กับร้านคนอื่นก็นับว่าเป็นวิธีประหยัดต้นทุนได้ดี เพราะไม่จำเป็นต้องเปิดร้านเอง แต่จงอย่าลืมว่าสิ่งไม่คาดฝันล้วนเกิดขึ้นได้หมด เพราะฉนั้นถ้าจะกันไว้ก่อนเกิดปัญหาคือ การมีช่องทางขายสินค้าและบริการเป็นของตัวเอง ซึ่งคุณอาจจะเปิด Page Facebook ,IG หรือแม้แต่ Website ไว้เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายเฉพาะของตัวเอง เพื่อให้เราสามารถทำการตลาดสินค้าได้หลายๆช่องทาง และไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นๆหายใจอย่างเดียว

 

6.ทำบัญชีเอง อย่าพึ่งคนอื่น

การทำบัญชีด้วยตัวเองนั้นดีและมีประโยชน์มากมาย เพราะช่วยทำให้เรารับรู้รายรับ รายจ่าย ของธุรกิจตลอดเวลา ช่วยให้เราเป็นคนรอบคอบ และป้องกันการโดนโกงได้ดีที่สุด และยังสามารถช่วยเราจัดการค่าใช้จ่ายในธรุกิจได้อย่างเหมาะสม

 

7.เลี่ยงการทำธุรกิจกับหุ้นส่วน

อันนี้เจ๊งกันมานักต่อนักแล้ว เพราะคุณจะเจอปัญหา เรื่องการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว เช่นหุ้นส่วนคนนั้นลงเงิน คนโน้นลงที่ คนนี้ลงแรง ซึ่งการทำงานแบบมีหุ้นส่วนค่อนข้างทำยาก เพราะความสามารถของหุ้นส่วนแต่ละคนมีไม่เท่ากัน แต่จะให้แบ่งผลประโยชน์เท่ากันซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากและน้ำท่วมปาก มีแต่จะบาดหมางกัน ซึ่งถ้าคุณเลือกได้จงทำคนเดียวดีที่สุด หรือถ้าจะทำกับหุ้นส่วนจงมีสัญญาที่ละเอียด ตกลงเรื่องการทำงานและผลประโยชน์กันให้ดี เพื่อหลีกเลียงการเสียเพื่อนเพียงเพราะคุยกันไม่ลงตัว

 

 

Read 661 times Last modified on Thursday, 16 February 2023 18:45